วันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ธรรมดาอยู่นานคนก็รู้สึกเบื่อ 'ผบ.ทบ.' ปัดโพลเราเขานอนมา!

19 ก.พ. 61 - ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)  ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ออกมาเคลื่อนไหวประกาศโรดแมปการเคลื่อน ว่า ทางฝ่ายความมั่นคง ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวอยู่แล้ว ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาประมาณ 6-7 คน ที่เป็นแกนนำ และมีอีกส่วนหนึ่งที่ตามมาผสม การเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้เป็นการแสดงเจตนารมณ์อยากให้มีการเลือกตั้ง ตนคิดว่าก็สอดคล้องกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ต้องการเลือกตั้ง เพียงแต่คนส่วนใหญ่เข้าใจเหตุผลและขั้นตอน จึงยอมให้ใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ดีกว่าออกมาเผชิญหน้ากัน ทำให้สถานการณ์ย้อนกลับมาสู่ที่เดิม  
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมจะขยายวงกว้างไปในพื้นที่ต่างจังหวัด จะเป็นการจุดประเด็น ให้คนออกมาชุมนุมเป็นจำนวนมากหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ต้องการความสงบ ตนย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ประกาศว่าไม่มีการเลือกตั้ง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ถ้านำคนออกมาเผชิญหน้ากันจะทำให้ปัญหานั้นบานปลายมากขึ้น
“เจ้าหน้าที่รัฐจะใช้กฎหมายตามเหมาะสม โดยทางพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำว่า 1.ต้องดูแลอำนวยความสะดวก 2.ดูแลเรื่องความปลอดภัย และ3.หากผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการโดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเราสามารถดูแลสถานการณ์ได้ ผมอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมคิดได้ด้วยตนเอง ให้มองผลประโยชน์ของชาติ เป็นภาพรวมเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเราเป็นนักศึกษาก็ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความคิด”ผบ.ทบ. กล่าว
เมื่อถามว่าได้ติดตามข่าวว่ามีใครสนับสนุนกลุ่มนี้หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกำลังติดตามอยู่ ซึ่งในเวลานี้ ผู้นำแต่ละพรรคการเมืองได้ออกมาปฏิเสธแล้ว และอยากให้ทุกอย่าง เดินไปตามขบวนการที่วางไว้ มากว่าการใช้กำลัง ไม่ใช่เดินหน้าจนประเทศชาติเสียหาย ตนขอย้ำว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ดำเนินการด้วยไม้แข็งอย่างแน่นอน เราก็ดำเนินการไปตามกฏหมายปกติที่มีอยู่  
“ผมมั่นใจเราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศ เข้าใจว่าเราผ่านวิกฤตตรงนั้นมาแล้ว และอยากให้เป็นบทเรียนและไม่อยากให้เกิดขึ้นมาอีก ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร ผมเชื่อว่าฝ่ายการเมืองก็เข้าใจเพราะต้องการให้มีการเลือกตั้ง” พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว
พอถามว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ทหารยืนเคียงข้างประชาชน จุดยืนของกองทัพเป็นอย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย ย้อนถามว่า ประชาชนกี่คน และประชนทุกคนเห็นสอดคล้องกับกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าวหรือไม่ ดังนั้นตนเห็นว่าคนไทยส่วนใหญ่ ทุกคนอยากเลือกตั้ง และก็เข้าใจเหตุผลและความจำเป็นในขั้นตอนของกฎหมาย เพราะฉะนั้นต้องว่าไปตามกฎหมายเป็นหลัก ซึ่งหากคำนวณขั้นตอนทางกฎหมาย ก็จะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2562  
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ออกมาเคลื่อนไหว ตนคิดว่าอาจจะเป็นการครบวงรอบ 4 ปี จึงอยากที่จะจุดประเด็นตรงนี้ขึ้นมา แต่เท่าที่เห็นไม่มีเหตุการณ์อะไรที่คนต้องออกมาชุมนุม ส่วนจะบานปลายเป็นเหมือนเหตุการณ์พ.ค.35 หรือไม่นั้นตนตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละคน ว่าเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีข่าวระบุว่า กอ.รมน.ลงพื้นที่ทำโพลล์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน พล.อ.เฉลิมชัย ปฏิเสธว่า กอ.รมน.ยังไม่เคยทำในเรื่องอยากเลือกตั้งหรือไม่อยากเลือกตั้ง  แต่เราก็ฟังเสียงดู จากธรรมชาติของคน  พออยู่นานก็รู้สึกเบื่อ อยากหาสิ่งที่ดีกว่า แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ดีกว่าคืออะไร เรื่องการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติ 
ผู้สื่อข่าวซักว่าว่า มีกระแสข่าวว่า กอ.รมน.ทำโพลแล้วพรรคเพื่อไทยยังได้รับความนิยมและจะชนะการเลือกตั้ง พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า กอ.รมน.ไม่ได้ทำ แต่โพลทั่วไปที่สำรวจออกมา คนส่วนใหญ่อยากเลือกตั้งกว่า  50-60 %   ก็เป็นเรื่องปกติ .

ผบ.ทบ.สยบข่าว'ส.ศิวรักษ์'ปูดทหารยังเติร์กงัดข้อคสช.

23 ก.พ. 61- ที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ(นสศ.) จ.ลพบุรี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในวันคล้ายวันสถาปนา หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ครบ 52 ปี พร้อมวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ทหารพลร่ม ก่อนจะมอบเครื่องหมายแสดงความสามารถพิเศษนักโดดร่มชั้นกิตติมศักดิ์ จำนวน 150 คน อาทิ  พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาคที่ 1 เจ้าหน้าที่ระดับสูงในส่วนของอำเภอและจังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปรามปราบยาเสพติด
พล.อ.เฉลิมชัย ให้สัมภษณ์ถึงการกู้ภาพลักษณ์คสช.เพื่อให้กองหนุนกลับมา ว่ารัฐบาล และคสช.ไม่ได้มีภาพลักษณ์เสียหาย รัฐบาลปัจจุบันก็ได้ความยอมรับ และหลายสิ่งหลายอย่างที่ได้รับการสำรวจจากการบริหารงานของรัฐบาลก็ดีขึ้นในหลายๆแนวทาง เพียงแต่บทบาทหน้าที่ของกองทัพก็ต้องทำหน้าที่ของกองทัพ คือ 1.ดูแลความมั่นคงให้กับประเทศ 2.การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน เช่น ปัญหาฝุ่นละออง เราก็ลงไปช่วยเหลือ ซึ่งเราก็ทำมาอย่างต่อเนื่อง อย่าไปเรียกว่าที่เราทำเป็นการเรียกร้องกองหนุนเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุลักษณ์ ศิวลักษณ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม ระบุว่ามีกลุ่มทหารหนุ่ม ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาล นั้น  พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีกลุ่มทหารหนุ่มที่ไหน  ไม่มีข้อมูลชัดเจน 
"คิดว่าคงไม่มีหรอกการดูแลกองทัพของผม ก็จะให้ความรู้ความเข้าใจ และให้ความยุติธรรมในการปกครอง และ ณ เวลานี้ ไม่มีความแตกแยก ทุกอย่างเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล"ผบ.ทบ.ระบุ
แหล่งข้อมูล ไทยโพสต์

วันอังคารที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

การฝึกอบรมวินัยข้าราชการต่ำกว่าสัญญาบัตร พนักงานราชการ และลูกจ้าง ในพื้นที่ บก.ทท.(แจ้งวัฒนะ)

การฝึกอบรมวินัยข้าราชการต่ำกว่าสัญญาบัตร พนักงานราชการและลูกจ้าประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ในพื้นที่ บก.ทท.(แจ้งวัฒนะ)








ไทย-สหรัฐฯ เปิดการฝึกคอบร้าโกลด์ 2018


เมื่อเวลา 13 ก.พ.61 10.00 น. พลเอก ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ นาย กลิน ที เดวีส์ (H.E. Mr. Glyn T. Davies) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึก Cobra Gold 2018 ณ กองการบินทหารเรือ สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมี เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทย ผู้แทนเอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำประเทศไทย เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย และอัครราชทูต ที่ปรึกษาสิงคโปร์ประจำประเทศไทย เข้าร่วมด้วย

การฝึก Cobra Gold เป็นการฝึกร่วมผสมทางทหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ซึ่งกองทัพไทย และกองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการฝึกในประเทศไทยเป็นประจำทุกปี ในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 37 วัตถุประสงค์การฝึกเพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงในการแก้ไขสถานการณ์ความขัดแย้ง มุ่งไปสู่การเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพนานาชาติ รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ทางทหาร ระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึก Cobra Gold 2018 ที่ดีอยู่แล้วให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น 

ในปีนี้การฝึก Cobra Gold มีประเทศเข้าร่วมการฝึกหลัก จำนวน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยมีประเทศจีน และอินเดีย เข้าร่วมในส่วนโครงการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ยังมีประเทศในโครงการฝ่ายเสนาธิการผสมส่วนเพิ่มนานาชาติ (Multinational Planning Augmentation Team : MPAT) จำนวน 10 ประเทศ สำหรับประเทศที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การฝึก (Combined Observer Liaison Team : COLT) จำนวน 10 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 29 ประเทศ จำนวนผู้เข้ารับการฝึกรวม 11,075 นาย โดยใช้พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และบริเวณอ่าวไทยตอนบน เป็นพื้นที่การฝึกหลัก ในระหว่างวันที่ 13-23 กุมภาพันธ์ 2561 ประกอบด้วย การฝึกปัญหาที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) การฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) และโครงการช่วยเหลือประชาชน (Humanitarian Civic Assistance: HCA) โดยในปีนี้ได้เพิ่มการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาสาธารณภัย (Humanitarian Assistance/Disaster Relief: HA/DR) การฝึกต่อต้านการก่อการร้ายสากล (Counter Terrorism: CT) และการฝึกกวาดล้างและทำลายทุ่นระเบิด (Land Mine Destruction: LMD) 

สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการฝึก Cobra Gold แบ่งเป็นสามระดับ ประกอบด้วย ระดับประเทศ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในระดับนานาชาติในการเตรียมความพร้อมด้านการทหารที่มีความเข้มแข็ง ทันสมัย สามารถตอบสนองภารกิจด้านความมั่นคงในทุกมิติ เช่น การรักษาสันติภาพ การบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น ส่วนในระดับกองทัพ เป็นการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพมิตรประเทศ เพื่อเป็นหลักประกันความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพไทยในทุกมิติ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะด้านการบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาค เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่ภูมิภาคอย่างยั่งยืน และในระดับพื้นที่ที่เข้าทำการฝึกฯ ได้รับประโยชน์จากการฝึกในส่วนโครงการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ของโครงการช่วยเหลือประชาชน นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น รวมทั้งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาของกำลังพลมิตรประเทศ ที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย